เป้าหมายหลัก

วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557

ระบบนิเวศ-มหาสมุทร (Ecosystem - Ocean)

Biology แบบเด็กๆประถมศึกษา
"Ecosystem-Ocean"
"เด็กๆคะ".......
ในมหาสมุทรมี alegy มากมายคณานับ
พวกมันรับแสงอาทิตย์เป็นอาหาร
แพลงตอนพืชแพลงตอนสัตว์มีมานาน
เป็นอาหารกินกันเองทุกเวลา
เวลาผ่านพ้นไป.....เกิดมี ปลาเล็กเล็ก
"ดูสิเด็กเด็ก ปลาเล็กเล็ก กินอะไรล่ะ"
"แพลงตอนพืชและสัตว์นั่นไงคะ"
ปลาเล็กจะ ถูกปลาใหญ่กว่า..และใหญ่กว่าอีก มากินไป
ถึงจะใหญ่ แต่ต้องดับ ด้วยวัฏฏะ
ร่างกายจะ จมใต้ ทะเลใหญ่
เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ปล่อยออกไป
"ดูเร็วไวว่าแพลงตอนต้องการจริง"
ในระบบ Ecology นี้ตระหนัก
ให้รู้จัก เชื่อมโยง ซึ่งทุกสิ่ง
ไม่ว่าไหน ในทะเล หรือผืนดิน
ทั้งหมดสิ้น มอบประโยชน์ ให้แก่กัน

......................................................................................................





ระบบนิเวศ-มหาสมุทร   (Ecosystem - Ocean)


เรารู้ว่าการเรียนการสอนมอนเทสซอรีทุกสิ่งทุกอย่างเชื่อมโยงกัน การนำเสนอบทเรียนนิเวศวิทยาก็เริ่มให้เด็กได้คิด  ว่าทุกอย่างเชื่อมโยง และพิ่งพิงกัน  งานนี้เด็กเคยเรียนรู้สัตว์  และสัตว์น้ำที่หายใจเอาออกซิเจนเข้ามาในร่างกาย
การนำเสนอบทเรียน
เชิญเด็กมากลุ่มหนึ่ง  วันนี้เราจะมาคุยในสิ่งที่เด็กรู้อยู่แล้ว  แต่เรามาดูว่ามันทำงานเชื่อมโยงกันอย่างไร ในโลกมีพื้นดิน ครูวาดพื้นดินเห็นไหมคะว่าพื้นดินก็คือพื้นทวีปนั่นเอง  ให้เห็นว่าต่ำลงมา  ในโลกเราก็มีน้ำด้วย   ครูวาดผิวน้ำ  เรามีพื้นดิน พื้นทวีป ที่เปลือกโลกบางส่วนอยู่ใต้น้ำ  แล้วก็มีดวงอาทิตย์ที่ให้ความอุ่นแก่เรา  ครูวาดดวงอาทิตย์  แล้วก็เกิดมีสิ่งมีชีวิตในมหาสมุทร  และมีพืชสีเขียวที่เรียกว่า alegyมีalegyมากมายอาศัยอยู่ในผิวน้ำ  มันเป็นแพลงตอน  รับเอาแสงจากดวงอาทิตย์มาเป็นอาหาร  และเราเรียกสัตว์นี้ว่า  แพลงตอนสัตว์  และแพลงตอนพืชก็อาศัยอยู่รวมกัน  แพลงตอนสัตว์ก็กินแพลงตอนพืช  เมื่อเวลาผ่านพ้นไป  ก็มีปลาเกิดขึ้น ครูวาดปลาตัวเล็กๆ  แล้วปลานี้ก็กินทั้งแพลงตอนสัตว์และแพลงตอนพืชด้วย  แล้วเวลาผ่านไป  ก็มีปลาตัวใหญ่เกิดขึ้นด้วย  ปลาตัวใหญ่ก็กินปลาตัวเล็กและแพลงตอนสัตว์และแพลงตอนพืชด้วย  แล้วปลาใหญ่กินปลาเล็กต่อไปเรื่อย  ชีวิตก็มีการตาย  ปลาตายก็จมลงสู่ใต้ทะเล  เราจะเห็นโครงกระดูกจมอยู่ใต้ทะเล   โครงกระดูกเหล่านี้ค่อยๆ เน่าเปื่อยไปก็ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกไป  แล้วมีพืชและแพลงตอนพืชที่ต้องการคาร์บอนนี้  เพื่อผลิตอาหารร่วมกับแสงอาทิตย์   แล้วแพลงตอนพืชก็ปล่อยออกซิเจนออกมา สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เราเรียกว่าระบบนิเวศน์  (Ecology) ระบบนิเวศน์ มอบประโยชน์ให้แก่กันและกัน  ไม่ใช่ระบบนิเวศน์แค่ในน้ำยังมีระบบนิเวศน์ในป่า  ระบบนิเวศน์บนพื้นดิน  ระบบนิเวศน์บนทุ่งหญ้า tundra  ที่เป็นระบบเยือกแข็ง  ไม่ว่าจะพูดถึงระบบนิเวศน์ส่วนใดของโลกล้วนพึ่งพากันและกัน  เด็กๆ ลองมาดูระบบนิเวศน์ในชุมชนที่เด็กอาศัยอยู่ที่พึ่งพากันและกัน   เป็นการนำเสนอที่เป็นพื้นฐานให้กับเด็ก  แต่อาจเป็นการศึกษาที่ไม่มีวันจบสิ้นเลยก็ได้
                คำสำคัญ  เช่น  symbiosis  คือ การพึ่งพาอาศัยกันเองของชีวิตแต่ละชีวิต  และความสำคัญของชีวิตเป็นประโยชน์กันและกันอย่างไร  เช่น lichen ประกอบด้วย algae ตัวให้อาหารกับเชื้อราและ fungus เชื้อรา  ถ้าไม่มีราก็จะไม่มี algaeเลย  เราจะพบในโลกของสัตว์  จะเป็นแค่จุดเริ่มต้นการเดินทางของการศึกษาระบบนิเวศวิทยา



บทบาทหน้าที่ต่อจักรวาล กล่าวถึงสิ่งเหนือธรรมชาติ
(Cosmic Task Including Super nature)
แผนภูมิที่วาดโดย มาริโอ้ มอนเทสซอรี่ อธิบายองค์รวม เรียกว่า แผนภูมิ
การนำเสนอบทเรียน
เชิญเด็กมาหนึ่งกลุ่มวันนี้ครูอยากให้เด็กเห็นภาพรวมสิ่งมีชีวิตในโลกของเรา  แล้วมันทำงานร่วมกันอย่างไร  มาดูสิ่งที่ศึกษาไปแล้ว เช่นดวงอาทิตย์  โลกของเราอาจมีอยู่ไม่ได้เลยถ้าขาดดวงอาทิตย์   ดวงอาทิยต์อยู่ในระยะที่ห่างไกลพอที่ให้พลังงานแก่เรา โลกโคจรทำให้โลกเหมาะที่อาศัยอยู่ในระยะที่เหมาะสมของดวงอาทิตย์   โลกเหมาะสมกับพืช  พืชจะอยู่รอดไม่ได้ถ้าไม่มีดวงอาทิตย์  พืชอยู่บนดิน  ก็มีพืชในน้ำได้  พืชต้องอยู่บนดินไม่ใช่บนหิน  แล้วดินก่อกำเนิดมาอย่างไร  เห็นหินไหม  ดวงอาทิตย์ส่องแสงมาที่หินวันแล้ววันเล่า  เนื่องจากว่าโลกหมุน   สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ร้อนแล้วเย็น   วันแล้ววันเล่า  หินนั้นก็แตกออกกลายเป็นดิน  เราจะเห็นว่า  พืชต้องพึ่งพิงดิน  แล้วดินต้องพึ่งพิงดวงอาทิตย์  พืชต้องพึงพิงน้ำ  น้ำมีวงจรถ่ายโอนในโลกของเรา  ในเวลาที่มีพืช  ก็มีสัตว์ในเวลานั้นด้วย  สัตว์มีลูกศรชี้ไปที่พืชและดิน  จากนั้นก็มีมนุษย์ในโลกของเรา  ดูศรชี้ไปที่พืช  สัตว์  ดวงอาทตย์  น้ำ   ดิน  นี่เป็นธรรมชาติ  การทำงานร่วมกันของทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้แต่ละชีวิตดำรงอยู่   ในส่วนด้านล่าง มีกลุ่มคนที่ดำรงอยู่ในโลก  เขาต้องพึ่งพิงธรรมชาติ  แต่มนุษย์มีศักยภาพพิเศษ เขาสามารถสื่อสาร  เขาสื่อสารกันและกันได้  เมื่อเวลาผ่านพ้นไป เขาสื่อสารการสร้างบ้านเรือนได้  เขารู้วิธีการสร้างสะพานข้ามน้ำ  หรือเขาค้นพบวิธีการถนอมอาหารเพื่อเก็บไว้กินในเวลาที่หนาวเย็น   เราอาศัยอยู่ในธรรมชาติ  และสามารถผลิตในสิ่งที่เหนือธรรมชาติ  ผู้คนในยุคนี้อาศัยอยู่ในธรรมชาติและยังต้องพึงพิงสิ่งเหนือธรรมชาติด้วย  นี่เป็นการอยู่ร่วมกันในโลกของเรา 

ข้อมูลครู 
เป็นหนึ่งในบทเรียนที่ไม่มีคำถาม  และไม่พูดคุยกัน  หรือเด็กอยากพูดคุยกันก็ได้ไม่เป็นไร 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น